วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2568

เก่งอย่างเดียวไม่พอ! เปิด Soft Skill ที่องค์กรต้องการมากที่สุดในยุคดิจิทัล

Soft Skill คืออะไร? ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ต้องมี พร้อมวิธีใส่ในเรซูเม่ให้ปัง
เก่งอย่างเดียวไม่พอ! เปิด Soft Skill ที่องค์กรต้องการมากที่สุดในยุคดิจิทัล
ในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง “ความเก่งเชิงเทคนิคอย่างเดียวไม่พอ” อีกต่อไป หลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า Soft Skill อย่างจริงจัง เพราะทักษะด้านนี้สะท้อนว่าเราสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีแค่ไหน และนั่นอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินว่า “คุณจะได้งานหรือไม่”


Soft Skill คืออะไร?
Soft Skill คือทักษะที่เกี่ยวข้องกับด้านพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะนี้มีความแตกต่างจาก Hard Skill ซึ่งเป็นความรู้เชิงเทคนิค เช่น ความสามารถในการเขียนโค้ด การออกแบบ หรือการทำบัญชี Soft Skill จะเน้นไปที่สิ่งที่วัดผลได้ยากแต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น ทักษะการสื่อสาร ความรับผิดชอบ หรือความยืดหยุ่นในการทำงาน พูดง่าย ๆ ก็คือ Hard Skill ทำให้คุณ "ได้งาน" แต่ Soft Skill ต่างหากที่จะทำให้คุณ "อยู่รอดและเติบโต" ในหน้าที่การงาน

ตัวอย่าง Soft Skill ที่องค์กรต้องการมากที่สุด
ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ มองหาบุคลากรที่มี Soft Skill ที่หลากหลายและโดดเด่น เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนทีมและบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้ นี่คือตัวอย่าง Soft Skill ที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก

1. การสื่อสาร (Communication)
ความสามารถในการพูด การฟัง การเขียน หรือการอธิบายความคิดได้อย่างเข้าใจง่ายและชัดเจน เป็นพื้นฐานที่สำคัญของทุกอาชีพ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพช่วยลดความผิดพลาดและสร้างความเข้าใจที่ดีในการทำงานร่วมกัน

2. การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
หมายถึงการรู้จักแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ การรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และพร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อนร่วมงาน การทำงานเป็นทีมที่ดีจะช่วยให้งานบรรลุผลสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น

3. การปรับตัว (Adaptability)
ทักษะนี้คือการมีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่แสดงอาการตื่นตระหนก ความสามารถในการปรับตัวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

4. ความคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking)
คือความสามารถในการมองปัญหาอย่างเป็นระบบ ใช้เหตุผลในการพิจารณาข้อมูล และคิดหาทางออกได้อย่างมีเหตุผลและรอบด้าน ทักษะนี้ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

5. ภาวะผู้นำ (Leadership)
ทักษะนี้ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่ตำแหน่งหัวหน้า แต่คือการกล้าที่จะริเริ่ม กล้าแสดงความรับผิดชอบ และสามารถชี้แนวทางที่ชัดเจนให้กับทีมได้ เพื่อให้ทุกคนมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

6. การบริหารเวลา (Time Management)
ความสามารถในการจัดลำดับความสำคัญของงานได้ดี และสามารถส่งมอบงานได้ตรงเวลาโดยไม่รู้สึกเร่งรีบ การบริหารเวลาที่ดีช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเครียด

7. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)
คือการเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น สามารถควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ใช้อารมณ์นำ การมี EQ ที่ดีช่วยให้ความสัมพันธ์ในการทำงานราบรื่นขึ้น

จะใส่ Soft Skill ในเรซูเม่อย่างไรให้ดูโดดเด่น
การใส่ Soft Skill ด้วยการ "ลิสต์รายชื่อ" แบบทั่ว ๆ ไป (เช่น Communication, Teamwork, Leadership) จะไม่ช่วยให้คุณมีความแตกต่างจากคนอื่น ควรใส่ในรูปแบบที่แสดงให้เห็นถึงการนำไปใช้จริงและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ตัวอย่างการเขียนที่ดี:

Communication: เคยเป็นผู้ประสานงานโครงการระหว่างทีมดีไซน์และการตลาด ทำให้ลดเวลาในการส่งต่องานได้ถึง 30%
Teamwork: ร่วมทำงานกับทีมต่างแผนกเพื่อเปิดตัวแคมเปญใหม่จนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 15%
Leadership: ดูแลทีมขาย 5 คน และวางแผนกลยุทธ์รายเดือนจนสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง
เคล็ดลับสำคัญคือการใช้รูปแบบ “Soft Skill พร้อมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง” จะทำให้นายจ้างเห็นภาพและเชื่อถือในทักษะของคุณได้มากกว่าการกล่าวอ้างลอย ๆ

Soft Skill ที่เหมาะกับแต่ละสายงาน
Soft Skill ที่จำเป็นจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของสายงาน:

สายครีเอทีฟ / การตลาด: ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity), การสื่อสาร (Communication), การแก้ปัญหา (Problem Solving)
สายไอที / โปรแกรมเมอร์: ความคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking), การปรับตัว (Adaptability), การทำงานร่วมกัน (Collaboration)
สายบริการลูกค้า / ฝ่ายขาย: ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy), การเจรจาต่อรอง (Negotiation), การบริหารเวลา (Time Management)
สายบริหาร / ผู้จัดการ: ภาวะผู้นำ (Leadership), การตัดสินใจ (Decision Making), ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)
Soft Skill คือพื้นฐานของความเป็นมืออาชีพในยุคใหม่ เพราะไม่ว่าคุณจะเก่งด้านเทคนิคแค่ไหน ถ้าหากขาดทักษะการสื่อสาร การทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือการจัดการอารมณ์ ก็ยากที่จะเติบโตในองค์กรได้ การใส่ Soft Skill ลงในเรซูเม่จึงไม่ใช่แค่การ "บอกว่ามี" แต่ต้อง "แสดงให้เห็นว่าทำได้จริง" และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม


พระบรมราโชบายด้านการศึกษา

พระบรมราโชบายด้านการศึกษา

ในหลวง รัชกาลที่ ๕
ในหลวง รัชกาลที่ ๙
ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐
📝รวบรวมโดย : ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี 
โครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาของจังหวัดชัยนาท 
  “เด็กไทย ใฝ่ดี ชัยนาทโมเดล”
เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 ณ หอประชุมโรงเรียนชัยนาทพิทยาคม
👉🏻https://anyflip.com/keaba/jxcw

🔥 วิธีสร้างค่าคอมอาทิตย์ละ “แสน”

🔥 วิธีสร้างค่าคอมอาทิตย์ละ “แสน” ฉบับลองผิดลองถูกมานับไม่ถ้วน
จนสังเคราะห์ตัวเองได้ออกมาว่า “ควรทำยังไง” ให้ช่องเติบโตเรื่อยๆ แบบไม่ต้อง “ยิงแอด” ก็ได้นี้หว่า #นายหน้าtiktok
👉 แบบฉบับแนวทางของผม ไม่ได้บอกว่ามันถูก100% แนวใครแนวมัน แต่สามารถลองอ่านเพื่อเป็นแนวทางได้ อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคนน้า ❤️

✅ แนวทางนี้เป็นฉบับเบาสมอง ไม่วิเคราห์ ไม่ลายละเอียดเยอะ ไม่ทฤษฏีเยอะแบบปวดหัว แต่สร้างรายได้ได้จริงๆ❗️เชื่อว่าอ่านจบทำตามได้

1.หาสินค้าที่คนทำน้อย เช่น สินค้าที่ร้านจีนเอาเข้ามาในไทยใหม่ๆ
หรือแบรนด์ใหม่ ถ้าเป็นของเฉพาะกลุ่ม เช่น คนรักรถ ของเดินป่า สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ พวกนี้ยิ่งดี
👉 เพราะแบรนด์ใหม่ ของใหม่ คนทำน้อย มีโอกาศที่เราจะแมสเป็นคนแรก ครองตะกร้ายาวๆ แบบไร้คู่แข่ง กว่าคนจะตามทัน เราโกยไปเยอะแล้ว ยิ่งคู่กับ สินค้าเฉพาะกลุ่มนะยิ่งมันส์ ไม่ได้หมายความว่าทุกสินค้าที่เราเอามาจะติด ปัง แมส ทุกตัวนะ ลุ้นเอา ~

2.หาก(กลยุทธ์ต่อจากข้อ1)แมสแล้วครองตะกร้า ให้รีบทำตัวเดิมซ้ำๆ ยัดเข้าไปทุกวัน เพราะAi มันจำแล้วว่าตะกร้านี่เราขายได้ มันจะนำส่งดี ให้ยัดเข้าไปอีก เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนการเล่าเรื่อง หรือ เปลี่ยนแค่“Hook"

3.ทักไปถามร้าน หาช่องทางติดต่อร้าน คุยกันในแอพTTก็ได้ ว่ามีนโยบายยิงแอดไหม ช่วยยิงให้เราได้ไหม และขอตัวอย่างฟรีได้ไหม (ข้อนี้ถ้าเรามีคลิปแมสร้านเขา เขายินดีส่งของหลายๆตัวนอกรอบให้เรา)
บางร้านใหม่ๆ ผมเคยเจอ เขายังไม่ยิง แต่คลิปผมแมส ผมเลยทักปรึกษาเขา 👉 จากนั้นยิงกระหน่ำเลย ยอดพุ่งไปอีก

4.พยายามหาสินค้าหลากหลายตัว ที่อยู่ในหมวดเดียวกัน หาแนวทางช่องให้เจอ สำหรับใครยังไม่รู้หายังไง ย้อนกลับไปอ่านโพสก่อนๆ เพราะการที่แนวทางช่องชัด มันสร้างโอกาศเยอะ - Ai รู้ว่าคลิปเราจะส่งให้ใคร ไหนจะเรื่องเรทการ์ดจ้างงานที่ตามมาอีก

5.ทำคลิปให้หลากหลาย 1 คลิป ควรมีหลายมุม 5-6 มุมขึ้นไป (สำหรับสายพากย์เสียงแบบผม) #มีออกกล้องพูดสดบ้าง

6.ภาพ เสียง แสง อันนี้สำคัญ ถ่ายนอกบ้านบ่อยๆ แสงธรรมชาติคือเยี่ยม นำส่งดีมาก

ลองดูนะครับ เผื่อเป็นแนวทาง ในการปั้นช่อง ❤️

ทำไม ChatGPT ไม่แนะนำแบรนด์เรา “5 เทคนิค GEO” (SEO AI)

ทำไม ChatGPT ไม่แนะนำแบรนด์เรา 
“5 เทคนิค GEO” (SEO AI)
ถาม AI ยังไงก็บอกแต่ “แบรนด์เรา”
เพิ่มยอดขายจาก AI บอกต่อ
(เซฟเก็บไว้เลย)
[1] ทุกวันนี้หลายคนทำ SEO 
จนติดอันดับ 1 Google ได้แล้ว
หรือกำลังเพิ่งจะเริ่มมาทำ
.
แต่พอไปลองถาม ChatGPT , Gemini 
คำถามเดียวกัน
.
กลับพบว่า AI ไม่เอ่ยชื่อเว็บเรา
หรือแบรนด์เราเลยสักคำ
แถมยังไปแนะนำเว็บคู่แข่งแทน 
.
นี่คือปัญหาใหญ่ที่
99% ของคนทำการตลาดออนไลน์กำลังมองข้าม
.
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ และจะแก้ยังไง
ให้คอนเทนต์เราโดดเด่นในสายตา AI
เพื่อให้ AI ได้ให้คำแนะนำแบรนด์เรา
.
ลุยยยยยยยย 🔥
.
[2] 1. ความจริงที่น่าตกใจ 
อันดับ 1 Google ≠ AI จะเห็น
.
AI เลือกแนะนำคู่แข่งแทน
ทั้งๆ ที่คุณอาจจะมีข้อมูลดีกว่าก็ตาม
.
นี่คือจุดเปลี่ยนครับ
ถ้าคุณยังทำแต่ SEO แบบเดิมๆ
คุณกำลังพลาดลูกค้ากลุ่มใหญ่
ที่เริ่มใช้ AI ค้นหาข้อมูลแทน Google แล้ว
.
ดังนั้น เราต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ทันที
.
[3] 2. AI “คิด” ไม่เหมือน Google ต้องเข้าใจก่อน
.
SEO แบบเดิมเราโฟกัสที่ Backlink 
กับ Keyword เพื่อเอาใจ Google
.
แต่สำหรับ AI นั้นต่างออกไป
มันให้ความสำคัญกับ
“โครงสร้างที่ชัดเจน” และ “ความน่าเชื่อถือ”
.
AI ไม่สนว่าคุณคืออันดับหนึ่ง
แต่มันสนว่าเนื้อหาของคุณ
“อ่านง่าย และอ้างอิงได้ง่าย” หรือไม่
.
นี่คือกติกาใหม่ที่ต้องปรับตัวนี้
ที่หลายคนยังไม่รู้ตัว
.
[4] 3. ปรับโครงสร้างด้วยรูปแบบ Q&A
.
เทคนิคแรกที่ช่วยได้ดีที่สุดคือ
ปรับโครงสร้างเนื้อหาเป็นแบบ “คำถาม-คำตอบ”
.
เพราะรูปแบบนี้เลียนแบบ
วิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบกับ AI โดยตรง
.
ทำให้เนื้อหาของคุณกลายเป็น
แหล่งข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับ AI ดึงไปสรุปและอ้างอิง
.
ลองเอาบทความเดิมของคุณ
มาแปลงเป็น Q&A ดูครับ
ผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปเยอะมาก
.
[5] 4. เพิ่ม “หลักฐาน” ที่ AI ต้องการ
.
หลังจากปรับโครงสร้างแล้ว
ต้องเพิ่มสิ่งที่ AI มองหา นั่นคือ
“การตรวจสอบจากภายนอก”
.
AI จะมองหาสัญญาณของความเชี่ยวชาญ เช่น
.
- การถูกอ้างอิงจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- ข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้
- ตัวเลขที่เฉพาะเจาะจง
.
เช่น แทนที่จะบอกว่า “กลยุทธ์นี้เพิ่ม Traffic ได้เยอะ”
ให้เปลี่ยนเป็น “กลยุทธ์นี้เพิ่ม Traffic ได้ 40%
ตามผลการศึกษาของ…”
.
คอนเทนต์ที่มีโครงสร้างชัดเจนพร้อมการอ้างอิง
จะถูก AI เลือกบ่อยกว่าเดิม
.
[6] 5. ทดสอบก่อนเผยแพร่ ด้วย Prompt พิเศษ
.
คุณสามารถ “ทดสอบ” ได้ว่า
ChatGPT จะอ้างอิงเนื้อหาของคุณหรือไม่
ก่อนที่จะเผยแพร่เสียอีก
.
วิธีการคือใช้ Prompt เฉพาะทาง
เพื่อจำลองการตอบสนองของ AI
ต่อ Keyword เป้าหมายของคุณ
.
แล้วดูว่าเว็บไซต์ของคุณ
ปรากฏอยู่ในรายชื่อแหล่งอ้างอิงหรือไม่
.
สิ่งนี้เปรียบเสมือนการ “มองเห็นอนาคต”
ทำให้คุณปรับแก้ได้ก่อนใครจะรู้ว่ามีปัญหา
.
[7] ในยุคนี้ การวัดผลแค่ Ranking ไม่พอแล้ว
เราต้องติดตาม “AI Mention Rate”
.
คือความถี่ที่ AI อ้างอิงเว็บไซต์ของคุณ
เมื่อมีคนถามคำถามในหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญ
.
ตรวจสอบค่านี้สำหรับ Keyword หลักของคุณ
อย่างสม่ำเสมอ
.
จะช่วยให้คุณรู้ว่า
กลยุทธ์ของคุณได้ผลหรือไม่
.
[8] โลกของ SEO กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
การปรับตัวให้เข้ากับ AI
ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
.
เริ่มจาก ทำความเข้าใจปัญหา
→ เรียนรู้วิธีคิดของ AI
→ ปรับโครงสร้าง
→ เพิ่มหลักฐาน
→ ทดสอบก่อนเผยแพร่
.
นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำทันที
เลือกบทความที่ดีที่สุดของคุณมา 3 ชิ้น
ปรับโครงสร้างเนื้อหา
เพิ่มแหล่งอ้างอิงและสถิติ
.
จากนั้นทดสอบใน ChatGPT
ดูว่าคุณได้รับการกล่าวถึงหรือไม่
.
ลองปรับทำตามดูนะครับ
.
ขอบคุณครับ 🙏🏻

#หัวหน้าแบงค์fullfunnel

จากดราม่าชีวิต สู่ตำนานไลฟ์สดร้อยล้าน – เธอไม่ได้ขายของ แต่ขาย “อัลกอริทึม” ได้ทั้งวงการ!


.
4 วัน ยอดขายทะลุ 200 ล้านบาท
จากหน้ากล้องมือถือ กับเสียงหัวเราะและความเป็นธรรมชาติของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ไม่มีสคริปต์ ไม่มีทีมโปรดักชันใหญ่ ไม่มีสตูดิโอหรู แต่เธอกลับทำได้ เพราะ “เข้าใจระบบ TikTok เหมือนเข้าใจหัวใจคนดู”
.
🎯 ปิดยอดหลักร้อยล้านใน 4 วันจริง!
วันที่ 1 : 24,211,823 บาท (ไลฟ์ 18 ชั่วโมง)
วันที่ 2 : 33,613,088 บาท
วันที่ 3 : 80,322,689 บาท
วันที่ 4 : 126,767,621 บาท

รวมทั้งหมดกว่า 200 ล้านบาทภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
แบรนด์ต่าง ๆ ต่อคิวจ้างเจนนี่มากกว่า 100 แบรนด์ต่อวัน
ไม่ใช่เพราะเธอดัง...แต่เพราะ “เธอขายได้จริง”
.
⚙️ Story: เธอเข้าใจ TikTok ดีกว่าคนทำโฆษณา
หลายคนคิดว่า TikTok ดันคลิปคนดัง แต่จริง ๆ แล้ว AI ของมันไม่ได้จำชื่อ — มันจำ “หน้า” กับ “เสียง” ระบบจะสแกนจากพลังการพูด ใบหน้า การเคลื่อนไหว และเสียงหัวเราะ คนที่โผล่มาซ้ำ ๆ ด้วยเอกลักษณ์เดิม จะถูกจัดว่า “น่าสนใจ” และถูกดันซ้ำในกลุ่มผู้ชมเดิมเสมอ

💡 เจนนี่รู้สิ่งนี้ดีเลย “ไม่หายไปเลยจากจอ” ไลฟ์ทุกวัน จนระบบมองว่าเธอคือ Creator ตัวจริง
Consistency = Visibility ความสม่ำเสมอ คือกุญแจให้ระบบจดจำ
.
⚡️ กลยุทธ์ทอง: การชนกลุ่มผู้ชม (Audience Collision)

ทุกครั้งที่เจนนี่ไลฟ์ร่วมกับคนดัง — อย่าง “หนุ่ม กรรชัย”, “บอสณวัฒน์”, “แพท ณปภา” ระบบ TikTok จะผสานกลุ่มผู้ชมของทั้งสองเข้าด้วยกัน กลายเป็นปรากฏการณ์ “ผู้ชมชนผู้ชม” ยอด Reach พุ่งแบบติดเทอร์โบในไม่กี่นาทีเจนนี่ไม่ได้ใช้เงินยิงแอด...แต่ใช้ “การร่วมมือ” เป็นเครื่องมือขยายอาณาจักรผู้ชม
.

😂 เธอไม่ได้ขายของ แต่ขาย “ความสนุก”

เจนนี่เข้าใจหัวใจของ TikTok ว่า คนไม่ได้เข้ามาดูเพราะอยากซื้อ แต่เพราะอยาก “ยิ้มก่อนนอน” เลยใช้แนวทาง “Shoppertainment” — ขายของผ่านความบันเทิง ให้ขายตอนคนหัวเราะ เล่นมุก ล้อเพื่อน พูดตรง แต่จริงใจ คนดูเพลินจนอยู่ต่อเอง — และสุดท้าย CF ไปโดยไม่รู้ตัว

TikTok เห็นว่าคนอยู่ดูนาน ก็ยิ่งดันไลฟ์ให้แรงขึ้น
เพราะระบบวิเคราะห์ว่า “เนื้อหานี้มีคุณค่า” คือการเติบโตแบบไม่ต้องซื้อโฆษณาแม้บาทเดียว
.

🕐 เวลา = เงิน และพลังใจคืออัลกอริทึม

ยิ่งคนดูนานเท่าไร ระบบยิ่งให้ค่าเยอะเท่านั้น
เจนนี่เลยไม่เคยปิดไลฟ์กลางคัน แม้ยอดคนดูจะเหลือไม่กี่ร้อย
เพราะรู้ว่า “AI จะไม่ทิ้งคนที่ยังไม่ยอมแพ้”
.

🎤 เอกลักษณ์คืออาวุธ

เสียงหัวเราะ โทนพูด และสำเนียงของเจนนี่ คือ “ลายน้ำทางเสียง” ที่ AI จดจำได้ TikTok สามารถจับเสียงและใบหน้าแยกกันได้ เมื่อระบบรู้ว่าผู้ชมคนไหนชอบโทนแบบนี้ มันก็จะส่งคอนเทนต์ของเธอไปยังกลุ่มที่มีแนวโน้มจะอินด้วยทันที 
.

💰 โมเดลรายได้ที่แบรนด์ต้องศึกษา
รายได้ของเจนนี่ไม่ได้มาจากแค่ “ขายของ” แต่จากการวางระบบรายได้หลายชั้น:
- ค่าจ้างจากแบรนด์ : ไลฟ์ให้ 100 แบรนด์ต่อวัน
- ค่าคอม (Affiliate) : ยอดขายที่ปิดได้ในไลฟ์ เธอรับส่วนแบ่งเฉลี่ย 10–15%
- รายได้ทางอ้อม : การเปิดหน้าร้านออนไลน์ส่วนตัว, การเป็นพรีเซ็นเตอร์, หรือการนำสินค้าเข้าไลฟ์ในฐานะพาร์ตเนอร์

📍 ตัวอย่างดีลจริง:
“Lyo ของหนุ่ม กรรชัย” ยอดขาย 19 ล้านบาท เจนนี่รับค่าคอมราว 3 ล้าน (คิดเป็น 15%) เรียกว่าแค่หนึ่งดีล ก็เท่ากับรายได้ทั้งเดือนของแบรนด์ขนาดกลาง!
.

💰 แบรนด์ได้อะไรจากเจนนี่? ทุกครั้งที่เจนนี่ไลฟ์ แบรนด์ได้ 3 ชั้นการตลาดครบวงจร
- TOF (Top of Funnel): เจนนี่ดึงผู้ชมใหม่ ๆ เข้ามา Awareness พุ่งทันที
- MOF (Middle of Funnel): เธอสื่อสารจุดขายสด ๆ ให้คนดูเข้าใจตรงจุด
- BOF (Bottom of Funnel): ปิดการขายตรงหน้า ไลฟ์เดียวจบ CF ทันที

และข้อมูลผู้ชมทั้งหมด ยังถูกนำไปยิงโฆษณาซ้ำ (Retargeting) ได้อีก เรียกว่าทั้งแบรนด์ ทั้งเจนนี่ ต่างได้ ROI แบบสองเด้ง
.
วันนี้เธอไม่ได้แค่ขายของได้
แต่ขาย “บทเรียนการตลาด” ให้ทั้งประเทศต้องจำ
.
#ปังเดย์ #PangDay #ปังเดย์จะเล่าให้ปัง #เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น #TikTokShop

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เปิดพิมพ์เขียว 4 เดือน สู้ศึกภาษีสหรัฐฯ ทุนจีน และเปิดตลาดโลกใหม่

ในห้วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัวต่อเนื่อง ขณะที่โลกกำลังเผชิญความปั่นป่วนจากสงครามการค้า วิกฤตพลังงาน และภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สายตาหลายคู่จับจ้องไปยัง ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ผู้มีเวลาเพียง 4 เดือนในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการ The Secret Sauce เธอเปิดเผยกรอบคิดยุทธศาสตร์ในการ ‘ปลุกเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย’ จากการกระตุ้นระยะสั้นเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในประเทศ สู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้แข่งขันได้ และขยายสู่การบริหารการค้าระหว่างประเทศท่ามกลางแรงกดดันของโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

เดิมพันบนเวลา: การตัดสินใจที่ไม่รอช้า
การตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอได้รับเวลาให้คิดจากนายกรัฐมนตรีเพียงครึ่งชั่วโมง แม้จะไม่ได้ตอบรับทันที แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งด้วยเหตุผลหลักเพียงข้อเดียว คือ ’เวลาอันสั้นคือแรงกระตุ้นให้ลงมืออย่างเข้มข้น’

เธอคาดการณ์ว่าเวลาทำงานในตำแหน่งนี้จะไม่เกิน 4 เดือน บวกกับช่วงรักษาการหลังยุบสภา รวมแล้วอาจมากที่สุดเพียง 8 เดือน แต่ด้วยอิสระที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ ตั้งแต่การเลือกทีมงาน ที่ปรึกษา ไปจนถึงตัวแทนการค้า ทำให้เธอเชื่อว่าจะสามารถทำงานได้เต็มที่โดยไม่ถูกจำกัดทางการเมือง

จากผู้บริหารเอกชนที่เคยทำงานในระบบรวดเร็วมาสู่ระบบราชการที่มีขั้นตอนมากขึ้น เธอยอมรับว่าทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่ แต่กลับไม่รู้สึก Culture Shock เพราะเชื่อในศักยภาพของข้าราชการไทยที่มีความรู้และข้อมูลเชิงลึกเป็นพื้นฐานสำคัญอยู่ก่อนแล้ว

เศรษฐกิจติดหล่ม ต้องกระตุ้นสั้น ให้ได้ผลยาว
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ มองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะน่ากังวล อัตราการเติบโตลดลงต่อเนื่อง ย้อนไป 20 ปีก่อน GDP ไทยเติบโตเฉลี่ย 5% ก่อนโควิดเหลือเพียง 3% และปัจจุบัน หากไม่มีมาตรการใหม่ อาจต่ำกว่า 2% โดยเฉพาะไตรมาส 4 ที่คาดว่าจะโตเพียง 0.3% 

ยังไม่นับรวมความท้าทายรอบด้าน ทั้งสงครามการค้าโลก มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ (US Reciprocal Tariff) การหลั่งไหลของทุนจีนทั้งขาว เทา ดำ รวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาทและราคาพลังงานที่ส่งผลต่อการส่งออกโดยตรง

ท่ามกลางสถานการณ์นี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทุกกระทรวงเศรษฐกิจทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเห็นผลภายใน 120 วัน ศุภจีจึงวางกรอบการทำงานภายใต้แนวคิด ‘กระตุ้นสั้น ให้ได้ผลยาว และกระจายตัว’ โดยเธอต้องการให้นโยบายระยะสั้นไม่ใช่เพียงการอัดฉีดเงินชั่วคราว แต่เป็นแรงส่งที่กระจายประโยชน์ไปถึงประชาชนทั่วประเทศ และสร้างผลต่อเนื่องในระยะยาว

สู้ศึกการค้าโลก: จากภาษีสหรัฐฯ ถึงการปรับระบบ
ปี 2567 การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 1.99 ล้านล้านบาท ดังนั้นเมื่อสหรัฐฯ ออกมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) จึงส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย ในรอบแรกไทยถูกเรียกเก็บภาษีสูงถึง 36% ก่อนจะเจรจาลดเหลือ 19% ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ต้องเร่งต่อยอดให้ได้ผลลัพธ์จริงภายในสิ้นปี

กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างเจรจาระดับเทคนิค เช่น ระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน (Transition Period), ระบบโควตา และราคา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สมดุล เช่น

- ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์: ไทยต้องการ 9 ล้านตันต่อปี แต่ผลิตได้เพียง 5 ล้านตัน การนำเข้าจึงจำเป็น โดยมีการกำหนดราคาปกป้องเกษตรกรไว้ที่ 7 บาท/กก.

- เนื้อหมู: ผลกระทบแทบไม่มี เพราะโควตานำเข้าเพียง 0.5% ของปริมาณหมูในประเทศ และมีมาตรการ Transition ควบคุมไว้แล้ว

อีกด้านหนึ่งคือการปรับระบบควบคุมภายในประเทศ ทั้งการจัดการใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin: CO) ที่เคยถูกปลอมกว่า 160 ฉบับในปีนี้ จึงได้รวบศูนย์การอนุมัติไว้ที่กระทรวงและใช้ระบบดิจิทัลควบคุมตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการ Anti-Dumping (AD) ที่แต่เดิมใช้เวลา 12–18 เดือน ให้เหลือเพียง 9 เดือน

เปิดตลาดใหม่ ขยายขอบฟ้าเศรษฐกิจไทย
เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาตลาดเดิมอย่างสหรัฐฯ และจีน กระทรวงพาณิชย์จึงวางแผนเปิดตลาดใหม่ผ่าน Trade Mission ที่เน้นผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่มีผลระยะยาว โดยตั้งเป้ามูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 8,900 ล้านบาท ภายใน 4 เดือน

ตลาดเป้าหมาย ได้แก่ เอเชียใต้ (โดยเฉพาะอินเดีย), ตะวันออกกลาง (UAE และซาอุดีอาระเบีย), แอฟริกา, ลาตินอเมริกา และจีนตะวันตก

นอกจากนี้ ยังเร่งรัดการเจรจา FTA ขนาดใหญ่ 2 ฉบับ ได้แก่

1. FTA เกาหลีใต้ — เจรจาคืบหน้าและคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2568

2. FTA EU — ใช้ความสำเร็จจาก FTA EFTA (4 ประเทศยุโรป: สวิตเซอร์แลนด์, ลิกเตนสไตน์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์) ที่เพิ่งลงนาม เป็น ‘บันได’ สู่การเจรจากับสหภาพยุโรป โดยตั้งเป้าให้ภาคเอกชนใช้สิทธิประโยชน์จาก EFTA เพิ่มขึ้น 38% ภายใน 4 เดือน

ศุภจีย้ำว่า การทำ Trade Mission ต้อง ‘ทำการบ้านละเอียด’ ตั้งแต่มาตรฐานสินค้า ขนาดบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงปริมาณ เพื่อให้จับคู่ธุรกิจ (Business Matching) แล้วสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายได้ทันที พร้อมพาแหล่งทุนและธนาคารไทยไปด้วย เพื่อขยายขนาดการค้าในตลาดใหม่ได้จริง

ทุนเทา–ทุนดำ: ภารกิจเร่งฟื้นสมดุลเศรษฐกิจ

ศุภจีมองว่าปัญหาทุนต่างชาติไม่ถูกต้อง (ทุนเทา–ทุนดำ) ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เกิดขึ้นทั่วโลก ไทยจึงจัดตั้งคณะกรรมการนอมินี (Nominee Board) ทำงานร่วมหลายกระทรวง เช่น การคลัง ศุลกากร ตำรวจ และ DSI มุ่งจัดการ 7 ธุรกิจเสี่ยง เช่น ที่ดินเกษตร โลจิสติกส์ อาหาร และอสังหาริมทรัพย์ พร้อมเปิดแพลตฟอร์ม MOC Plus ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสธุรกิจต้องสงสัยโดยตรง

ในส่วนของ SME เธอย้ำชัดว่า ‘รัฐไม่ควรปกป้อง แต่ควรเสริมความแข็งแรง’ โดยเน้นให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนจากการผลิตตามตัวเอง (Supply Driven) ไปสู่การผลิตตามตลาด (Demand Driven) พร้อมพัฒนา Thaitrade.com จาก Directory ธรรมดาให้เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายจริง และเชื่อมข้อมูลกับระบบธุรกรรมเพื่อมอนิเตอร์ผลได้

อีกทั้งยังผลักดันให้ SME เข้าใจมาตรฐาน Green และ Carbon Adjustment เพื่อแข่งขันในตลาดสากล และเตรียมช่องทางสนับสนุน เช่น Soft Loan และ Special Loan สำหรับการปรับตัว

ข้าวไทยในสมรภูมิตลาดโลก: จากเยียวยาสู่พัฒนา
ในภาคเกษตรกรรม ศุภจีเลือกแนวทาง “บริหารควบคู่เยียวยา”

ปีนี้ไทยมีผลผลิตข้าว 25.8 ล้านตัน หลังหักปริมาณข้าวหอมมะลิ (6.8 ล้านตัน), โควตาส่งออก (5.9 ล้านตัน), การบริโภคในประเทศ (7.4 ล้านตัน), สต๊อกความมั่นคง (2.5 ล้านตัน), และพันธุ์ข้าวสำหรับฤดูถัดไป (0.9 ล้านตัน) จะเหลือข้าวส่วนเกินราว 1.8 ล้านตัน

มาตรการระยะสั้นประกอบด้วย:

- โครงการธงเขียว: แจก 1,000 บาทให้ชาวนาเพื่อซื้อปุ๋ยราคาถูก

- สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ: รัฐบาลจ่าย 3.5% สมาคมฯ จ่าย 1% เพื่อช่วยเกษตรกรเก็บข้าวไว้ก่อน

- เร่งรัด G2G กับจีน: เพิ่มจาก 280,000 ตันเป็น 500,000 ตัน เนื่องในโอกาส 50 ปีความสัมพันธ์ไทย–จีน

- รักษาโควตาญี่ปุ่น: เร่งเจรจา G2G เพื่อคงโควตา 300,000 ตัน แม้ญี่ปุ่นเพิ่มการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ

ในระยะยาว เธอย้ำว่าต้องแก้ที่พันธุ์ข้าวให้ตรงกับความต้องการตลาดโลก และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยยกตัวอย่างเกษตรกรที่ทำได้ดี เช่น ข้าวเหนียวดำคนึงนิด

ผู้นำแบบบูรณาการ: ขับเคลื่อนร่วม ไม่สั่งการ

การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในช่วงนี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันหลายกระทรวง ทั้งพาณิชย์ เกษตร และอุตสาหกรรม รัฐบาลจึงมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นประธานคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกกระทรวงประสานการทำงานในทิศทางเดียวกัน

ศุภจีเน้นย้ำหลักการบริหารคนและองค์กร โดยยึดความเคารพในสถาบันข้าราชการ ซึ่งอยู่กับกระทรวงมายาวนานกว่า 105 ปี ‘รัฐมนตรีมาแล้วไป แต่ข้าราชการยังอยู่’ เธอจึงมองบทบาทของตนในฐานะ ‘ผู้ร่วมขับเคลื่อน’ มากกว่า ‘ผู้สั่งการ’ และจะไม่แลกอนาคตของระบบกับผลงานระยะสั้นอย่างแน่นอน

4 ภารกิจระยะสั้น ที่ต้องเห็นผลจริง

ในช่วงเวลา 4–8 เดือนของการทำงาน เธอกำหนดเป้าหมายที่ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรม 4 เรื่องหลักคือ

1. สร้างเสถียรภาพตลาดใหม่: ขยายตลาดส่งออก ลดการพึ่งพาตลาดหลัก

2. ดูแลค่าครองชีพประชาชน: เปิดเผยราคายาให้ประชาชนรู้ก่อน ช่วยประหยัดกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี

3. จัดการสมดุลภาคเกษตร: ดูแลข้าวส่วนเกิน 1.8 ล้านตัน อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ลดกฎระเบียบและพัฒนาเทคโนโลยี: ยกระดับแพลตฟอร์ม MOC Plus ให้ประชาชนเข้าถึงกระทรวงได้ง่าย พร้อมปรับ Mindset ข้าราชการให้ “ตอบจบในจุดเดียว”

#TheSecretSauce

70 เทคนิค prompt ที่ครอบคลุมทุกด้านการตลาดดังนี้

จากการสำรวจล่าสุดของ HubSpot ที่เก็บข้อมูลจากนักการตลาดกว่า 1,500 คน พบว่า นักการตลาดในปัจจุบันใช้ AI เข้ามาช่วยในการทำงานอย่างมาก โดยเฉพาะการสร้างคอนเทนต์ซึ่งเป็นกรณีการใช้งานหลักถึง 55% แต่ยังมีถึง 31% ที่เล่าว่าผลลัพธ์จาก AI ไม่ได้ตรงความต้องการเสมอไป
.
Lipsa Das ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล เล่าว่า prompt ที่ดีที่สุดของเธอมักจะให้บริบทหรือข้อมูลเยอะมาก รวมถึงตัวอย่างที่ชัดเจนว่าต้องการผลลัพธ์แบบไหน แล้วค่อยทดลองและปรับแต่งต่อไป เธอยังเก็บไฟล์ prompt ที่ใช้ได้ผลดี จัดเก็บตามรูปแบบและกรณีการใช้งานด้วย
.
ด้วยเทคนิค prompt ที่ถูกต้อง คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ ประหยัดเวลาในการสร้างเนื้อหา และที่สำคัญคือมีเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญกว่า โดยมี 70 เทคนิค prompt ที่ครอบคลุมทุกด้านการตลาดดังนี้

Prompt ประเภทให้ความรู้
คอนเทนต์สำหรับการศึกษาแบบเข้าใจง่าย (5 Prompts)
.
1. เขียนบล็อก [จำนวนคำ] สำหรับผู้เริ่มต้นเกี่ยวกับการใช้ [ผลิตภัณฑ์] ใน [อุตสาหกรรม] ใช้ตัวอย่างจริง คำจำกัดความที่ชัดเจน และ FAQ สั้นๆ ท้ายบทความ
2. สำรวจสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ใหม่ใน [niche] รู้สึกท่วมท้นเมื่อพยายามแก้ [ปัญหาเฉพาะ] แนะนำซีรีส์เนื้อหาสำหรับแต่ละ pain point
3. ลิสต์และอธิบายองค์ประกอบสำคัญของ [ประเภทกลยุทธ์] ที่มีประสิทธิภาพ รวม takeaway ที่ผู้อ่านนำไปใช้ได้ทันที
.
4. เปรียบเทียบ [หัวข้อ 1] และ [หัวข้อ 2] ตาม [เกณฑ์ 1], [เกณฑ์ 2], และ [เกณฑ์ 3]
5. อธิบายแนวโน้ม [ปี] ใน [หัวข้อ] ที่เปลี่ยนภูมิทัศน์ของ [อุตสาหกรรม] ใช้ตัวอย่างจริง สถิติ และคำพูดจากผู้เชี่ยวชาญ

Prompt ประเภทให้ข้อมูล
คอนเทนต์ที่สร้างความน่าเชื่อถือและมีคุณค่า (3 Prompts)
.
6. เขียน newsletter ที่หักล้างตำนาน 3-5 ข้อเกี่ยวกับ [หัวข้อ] โดยใช้ข้อมูลล่าสุดหรือ case study จริง
7. สร้างหน้า FAQ สำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ที่ตอบคำถามซัพพอร์ตที่พบบ่อย ใช้ [สรุปตั๋วซัพพอร์ต] และจัดรูปแบบคำตอบให้ชัดเจน/กระชับ
8. เขียนเนื้อหา help center ที่อธิบายวิธีการทำงานของ [ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ยอดนิยม] รวมคำแนะนำทีละขั้นตอนและเทคนิคแก้ปัญหาทั่วไป

Prompt ประเภทลิสต์
คอนเทนต์แบบรายการที่ดึงดูดใจและมีประโยชน์ (5 Prompts)
.
9. โพสต์ LinkedIn แบบลิสต์ [จำนวน] บทเรียนที่ผมเรียนรู้จาก [เหตุการณ์สำคัญหรือความล้มเหลว] ทำให้เข้าถึงได้ด้วยการเล่าเรื่องและเพิ่มข้อคิดสุดท้าย
10. สถิติสำหรับบทความ
ระบุ [จำนวน] สถิติที่สามารถใช้ในบทความของผมที่มีชื่อ [หัวข้อ] จากรายงานอุตสาหกรรมนี้: [รายงาน] นี่คือโครงร่างบทความ: [โครงสร้าง]
11. คำถามลูกค้าระดับกลาง
ระบุ [จำนวน] คำถามที่ลูกค้าถามบ่อยเกี่ยวกับ [หัวข้อ] ในระดับกลาง ตามด้วยข้อเสนอแนะคำตอบ (ต่ำกว่า 50 คำแต่ละข้อ)
.
12. เครื่องมือสำหรับผู้เริ่มต้น
สร้างรายการ [จำนวน] เครื่องมือจำเป็นสำหรับผู้เริ่มต้น [หัวข้อ] แต่ละอันพร้อมกรณีการใช้งานสั้น ๆ
13. เทมเพลตฮุคไวรัล
ระบุ [จำนวน] เทมเพลตฮุคไวรัลสำหรับโพสต์ [แพลตฟอร์ม] ใน [ตลาดเฉพาะ] และอธิบายว่าทำไมแต่ละอันถึงได้ผล

Prompt ประเภทเทคนิค
คำแนะนำทีละขั้นตอนและกรณีศึกษา (3 Prompts)
.
14. เขียนเอกสาร help center สำหรับผู้ใช้เกี่ยวกับ [ฟีเจอร์ผลิตภัณฑ์] จาก [เอกสารอ้างอิงทางเทคนิค] รวมขั้นตอนการตั้งค่าและใช้งาน
15. เขียน technical case study แสดงวิธีที่ [ลูกค้า] ใช้ [ผลิตภัณฑ์] เพื่อบรรลุ [ผลลัพธ์] รวม: ปัญหา ผลกระทบ วิธีแก้ไข ขั้นตอน และผลสุดท้าย
16. สร้างข้อเสนอกลยุทธ์สำหรับ [ลูกค้า] ที่มีปัญหา [pain point] ใน [อุตสาหกรรม] เพิ่มต้นทุน timeline และผลลัพธ์

Prompt ประเภท AI Art
การสร้างภาพด้วย AI สำหรับการตลาด (4 Prompts)
.
17. ผู้หญิงเอเชียหน้าตาสวย ผิวเปล่งปลั่ง กำลังถือลิปสติกและยิ้มอย่างมั่นใจ, โทนหวานพาสเทล, ฉากหลังสตูดิโอเรียบหรู, แสงนุ่มนวล, สำหรับภาพโฆษณาในโซเชียลมีเดีย
18. ภาพประชุมธุรกิจมืออาชีพใน co-working space 5 คนคุยกัน ผู้นำตั้งค่าการนำเสนอและ Zoom
19. ภาพมุมข้างไหล่ของแล็ปท็อปเปิด AI SaaS คนใส่เสื้อลำลอง สถานที่คาเฟ่
20. ผู้หญิงแต่งตัวหรูหรา ชุดเดรสสีดำ กำลังถือกระเป๋าถือแบรนด์เนม, โทนหรูหรา เรียบง่าย, ฉากหลังสีโมโนโครม, แสงไฟซอฟต์บ็อกซ์, สำหรับโฆษณานิตยสารแฟชั่น

Prompt ประเภทการหาลูกค้า
การสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ (10 Prompts)
.
21. แนะนำ [จำนวน] คำถาม discovery สำหรับลูกค้า social media [ลูกค้า] ที่มี pain point: [pain points]
22. รวบรวมข้ออ้างการขาย 5 ข้อทั่วไป: [สคริปต์การโทร] ให้คำตอบกระชับแสดง ROI หรือ cost-benefit รวม follow-up หากลูกค้าหายไป
23. เขียนข้อความ cold DM สำหรับ [ผลิตภัณฑ์] บรรทัดแรกที่เป็นส่วนตัว กรอบ CTA รอบ [ความท้าทายเฉพาะ] สร้างความไว้วางใจ
.
24. วิเคราะห์ UX ของหน้า landing ของคู่แข่ง [ลิงก์] จากมุมมอง [ผู้ซื้อ B2B SaaS] สกัด 5 กลยุทธ์ที่ใช้แปลง cold traffic เป็น leads
25. ลิสต์ 10 ทรัพยากรโบนัสที่เสนอในบล็อกโพสต์เรื่อง [หัวข้อ] เพื่อขับเคลื่อน email signup จาก [กลุ่มเป้าหมาย]
26. แนะนำกลยุทธ์ positioning สำหรับ [ผลิตภัณฑ์/บริการ] เป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับ [ICP] ที่ดิ้นรนกับ [pain point]
27. ระบุกลุ่มเป้าหมายใน [สถานที่] ที่มีแนวโน้มซื้อ [ผลิตภัณฑ์] เพื่อแก้ [pain point] สร้างโปรไฟล์ผู้ชม ธีมข้อความ และช่องทางการตลาด
.
28. วิเคราะห์ดีล 50 รายการที่ปิดได้จาก CRM: [อัปโหลดชีต] คุณลักษณะทางประชากรและพฤติกรรมทั่วไปของลูกค้าเหล่านี้คือ?
29. สร้างแบบสอบถามสำหรับการโทรออนบอร์ดกับลูกค้าที่มีศักยภาพใน [อุตสาหกรรม] รวมคำถามที่ต้องถามเพื่อทำ [บริการ 1] และ [บริการ 2]
30. ทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญการตลาด B2B สร้างกลยุทธ์เว็บินาร์เพื่อสร้าง leads สำหรับ [อุตสาหกรรม/ผลิตภัณฑ์] วางแผนผู้พูด funnel อีเมล และ follow-up

Prompt ประเภทโซเชียลมีเดีย
การสร้างคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดียที่มีประสิทธิภาพ (10 Prompts)
.
31. แนะนำไอเดียดีไซน์สำหรับ Instagram carousel 5 สไลด์ สำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ใน [อุตสาหกรรม] เนื้อหาร่าง: [เนื้อหา]
32. วิเคราะห์ high-performing hooks จากแคมเปญก่อนหน้า: [hooks] สร้างเทมเพลตตามอารมณ์ที่เรียกร้อง
33. เขียนสคริปต์วิดีโอ TikTok รูปแบบสั้นไม่เกิน 2 นาทีสำหรับ [ผลิตภัณฑ์] demo โครงสร้าง 3 ส่วน: Hook → Value/Story → CTA
.
34. นี่คือการถอดเสียง YouTube ที่ทำสำหรับ [ผลิตภัณฑ์] สำหรับ [กลุ่มเป้าหมาย] เขียนคำอธิบายวิดีโอที่น่าสนใจและแนะนำแท็ก
35. ร่าง Instagram story sequence เพื่อโปรโมต limited-time offer บน [ผลิตภัณฑ์] กำหนดเป้า [ผู้ชม]
36. วิเคราะห์ข้อมูล social media analytics สำหรับ [ระยะเวลา]: [ข้อมูล] เวลาโพสต์ที่ดีที่สุด รูปแบบ และแพทเทิร์นเนื้อหา
.
37. สร้าง X thread ด้วย [จำนวน] เทคนิคใช้งานได้จริงเกี่ยวกับ [pain point ที่เกี่ยวข้อง] สำหรับมืออาชีพใน [อุตสาหกรรม]
38. เรากำลังเปิดตัว [ผลิตภัณฑ์/บริการ] ใน [niche] เป้าหมายคือ [เป้าหมาย] สร้างแคมเปญโซเชียลที่เหมาะสมกับเป้าหมายนั้น
.
39. ต้องการ A/B test hook โพสต์โซเชียล เนื้อหาต้นฉบับ: [เนื้อหา] เขียน 5 เวอร์ชันข้อความหลักเดียวกันแต่มุมมองต่างกัน
40. Brainstorm [จำนวน] ไอเดีย UGC content campaign สำหรับ [ผลิตภัณฑ์] มุ่งเน้นวิธีแสดงผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ เพิ่มแนวทาง brief และโครงสร้างแรงจูงใจ

Prompt ประเภทพอดแคสต์หรือเนื้อหาวิดีโอ
การสร้างสคริปต์และแนวคิดคอนเทนต์วิดีโอ (10 Prompts)
.
41. สร้าง [จำนวน] ไอเดียตอนพอดแคสต์สำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ใน [อุตสาหกรรม] กำหนดเป้า [ผู้ชม] รวมชื่อเรื่องและโครงร่างสั้น
42. แนะนำซีรีส์ YouTube เกี่ยวกับวิธี [ผลิตภัณฑ์] ช่วย [ผู้ชม] แก้ [pain point เฉพาะ] ใน [อุตสาหกรรม] เป็นข้อมูลพร้อมการรวมผลิตภัณฑ์
43. แนะนำไอเดียเว็บินาร์ด้วย [ผลิตภัณฑ์] สอน [ผู้ชม] วิธีบรรลุ [ผลลัพธ์]
44. แปลงบล็อกโพสต์ [URL] เป็นสคริปต์ YouTube [ระยะเวลา] สำหรับ [ผู้ชม] ใน [อุตสาหกรรม] เพิ่มคิวภาพเพื่อรักษาผู้ชม
.
45. สร้างสคริปต์วิดีโออธิบายแบบแอนิเมชันสำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ที่ลดความซับซ้อนของ [แนวคิดซับซ้อน] สำหรับ [ผู้ชม]
46. สร้าง Veo-3 prompt สำหรับวิดีโอสไตล์ภาพยนตร์สำหรับฉากแรกของสคริปต์: [สคริปต์] รวมคำอธิบายฉาก พื้นหลัง ตัวหลัก แสง
47. สร้าง 5 แนวคิดวิดีโอสำหรับ product demo แสดง [ผลิตภัณฑ์] ใน [สถานที่]
.
48. วิดีโอ YouTube: [วิดีโอ] แบ่งสคริปต์เป็นเนื้อหาแบบสั้นหลายชิ้น แต่ละชิ้นต้องมี hook และ takeaway ชัดเจน
49. เขียนสคริปต์วิดีโอเบื้องหลังของ [การเปิดตัวผลิตภัณฑ์] รวมแนวคิดกราฟิก คำถามถามผู้ชม และรูปแบบต่างๆ
50. เขียนสคริปต์วิดีโอแบบ top [จำนวน] เกี่ยวกับ [หัวข้อ] จัดอันดับตามความสำคัญ ศักยภาพการมีส่วนร่วม และ [เกณฑ์อื่นๆ]

Prompt ประเภทการโปรโมทคอนเทนต์ (10 Prompts)
.
51. สร้างข้อความติดต่อ influencer เพื่อโปรโมต [ผลิตภัณฑ์] ใน [อุตสาหกรรม] กล่าวถึงโพสต์ล่าสุดเรื่อง [หัวข้อ] และแนะนำรีวิวให้ความรู้
52. เขียน X thread ที่ดึงดูดผู้อ่านด้วย [pain point] จากนั้นแจกฟรีเรื่อง [หัวข้อ] ใช้ thread สร้างความไว้วางใจและแนะนำ [ผลิตภัณฑ์] เป็นวิธีแก้ปัญหาลึก
53. แนะนำ [จำนวน] โอกาส co-marketing สำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ใน [อุตสาหกรรม] พร้อมประเภทพันธมิตรที่มีศักยภาพและไอเดียแคมเปญร่วม
.
54. เขียนลำดับอีเมล cold outreach เพื่อแนะนำ [ผลิตภัณฑ์] ให้ลูกค้าที่มีศักยภาพใน [อุตสาหกรรม] รวม [จำนวน] ตัวเลือกหัวเรื่องที่น่าสนใจ
55. ลิสต์ [จำนวน] ช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อโปรโมต [ผลิตภัณฑ์] ใน [อุตสาหกรรม] กำหนดเป้า [ผู้ชม] จัดอันดับตาม ROI
56. ตารางโพสต์และความถี่ที่เหมาะสมสำหรับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ [ผลิตภัณฑ์] บน LinkedIn และ X เพื่อเพิ่มการมองเห็นสูงสุดใน [ผู้ชม]
.
57. ร่างแผน GTM เต็มรูปแบบสำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ใน [อุตสาหกรรม] รวมข้อความ การวางตำแหน่ง กลยุทธ์ช่องทาง และแผนเนื้อหาสำหรับ [ผู้ชม]
58. เขียนสคริปต์โฆษณา YouTube 60 วินาทีสำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ใช้อารมณ์ขันเป็นมิตรดึงดูดความสนใจใน 5 วินาทีแรกและรักษา [กลุ่มเป้าหมาย]
59. พัฒนาโครงร่างการฝึกอบรมภายในสำหรับทีมขายและซัพพอร์ตเกี่ยวกับ [กลยุทธ์การตลาด] เกี่ยวกับ [ผลิตภัณฑ์]: ข้อความหลัก บุคลิกลูกค้า การจัดการข้ออ้าง
60. ร่างข่าวประชาสัมพันธ์สำหรับ [การเปิดตัวผลิตภัณฑ์] ปรับให้เข้ากับโทนของ [สื่อ] รายละเอียดการเปิดตัว: [รายละเอียด]

Prompt ประเภทการนำเนื้อหาเก่าให้เป็นรูปแบบใหม่ (10 Prompts)
.
61. ใช้แนวคิดหลักจาก [whitepaper] เป็น [จำนวน] ทวีตที่ฉับไวและน่าสนใจสำหรับ [ผู้ชม] ให้เหมาะกับผู้ชม X
62. อัปเดตบล็อกนี้โดยใช้ insights จาก [รายงานตลาด] รักษาแนวคิดหลักแต่แทนที่สถิติ เครื่องมือ และโทนให้ตรงกับเทรนด์ปัจจุบัน
63. แบ่ง [บล็อกโพสต์เก่า] เป็น [จำนวน] ชิ้น short form สำหรับ [แพลตฟอร์ม] แต่ละชิ้นเน้น insight สำคัญหนึ่งข้อที่เกี่ยวข้องกับ [ผู้ชม]
.
64. Repurpose [บันทึกเว็บบินาร์เก่า] เป็นบล็อกโพสต์ 1,000 คำสำหรับ [ผู้ชม] เรื่อง [หัวข้อ]
65. แปลงบทความ [URL] เรื่อง [หัวข้อ] เป็นสคริปต์พอดแคสต์ 10 นาทีสำหรับผู้นำ [ตำแหน่งงาน] ใน [อุตสาหกรรม]
66. Refresh เนื้อหา [URL หน้า] เพื่อร่างคัดลอกสำหรับหน้า landing ใหม่สำหรับ [รายละเอียดผลิตภัณฑ์] พร้อมคำอธิบายที่อัปเดตและสัญลักษณ์ดีไซน์ทันสมัย
67. แบ่ง [ebook] เป็นซีรีส์โพสต์ LinkedIn สำหรับ [ผู้ชม] ใน [อุตสาหกรรม] แต่ละโพสต์ต้องมี takeaway สำคัญ
.
68. เขียน [testimonials] จากลูกค้าใหม่เป็น 5 แคปชัน Instagram ที่น่าสนใจสำหรับ [ผลิตภัณฑ์] ใช้โทนสบายๆ และ CTA ชัดเจน
69. อัปเดตแคมเปญอีเมลเก่า: [ใส่อีเมล] เป็นเวอร์ชันใหม่สำหรับ [ฤดูกาล] [ปี] สร้าง 3 เวอร์ชันสำหรับ A/B test
70. แปลงหน้า FAQ สำหรับ [ผลิตภัณฑ์] เป็นลำดับอีเมลเพื่อการศึกษาสำหรับ [ผู้ชม]

Pro Tips สำหรับการใช้ AI Prompts
หลักการสำคัญ คือ
๐ ยิ่งรายละเอียดมาก ผลลัพธ์ยิ่งดี - อย่าเขียน Prompt สั้นๆ
๐ เพิ่มบริบท - ยิ่งให้ข้อมูลมาก AI ยิ่งเรียนรู้เร็ว
๐ ทดลองและปรับแต่ง - ไม่มี Prompt ที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรก
๐ เก็บ Prompt ที่ได้ผล - สร้าง swipe file จัดหมวดหมู่ตามประเภทและการใช้งาน
.
และนี่คือผลลัพธ์ของการใช้เทคนิค prompt ที่ถูกวิธี การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ประหยัดเวลา และตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจอย่างแม่นยำ ที่สำคัญคือคุณจะมีเวลาไปโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ที่สร้างมูลค่าให้ธุรกิจมากกว่า
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH 
——— 
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน 
#Business #AI #Prompt
#100WEALTH 
#ไปให้ถึง100ล้าน
.
อ้างอิง
https://blog.hubspot.com/marketing/ai-prompt-examples

เก่งอย่างเดียวไม่พอ! เปิด Soft Skill ที่องค์กรต้องการมากที่สุดในยุคดิจิทัล

Soft Skill คืออะไร? ทักษะที่คนทำงานยุคใหม่ต้องมี พร้อมวิธีใส่ในเรซูเม่ให้ปัง เก่งอย่างเดียวไม่พอ! เปิด Soft Skill ที่องค์กรต้องก...